สาระน่ารู้


7 ข้อควรรู้ ก่อนซื้อรถ EV

 

7 ข้อความรู้ก่อนซื้อรถ EV

 

กระแสความนิยมของรถยนต์ไฟฟ้ามีสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ ๆ ออกมามากมาย ก่อนที่คุณจะตัดสินใจซื้อรถ EV มาใช้ มีปัจจัยถึง 7 ประการที่คุณควรศึกษา และพิจารณา เพื่อให้คุณได้สมรรถนะรถยนต์ไฟฟ้าที่ตรงโจทย์ความต้องการ คุ้มค่า เหมาะสมกับงบประมาณที่มี และไม่มีปัญหากวนใจในอนาคต

 

นี่คือ 7 ข้อควรรู้ ก่อนซื้อรถ EV

 

1Battery Capacity VS. NEDC Modeความจุของแบตเตอรี่ vs. ระยะทางวิ่งได้ไกลที่สุด ก่อนอื่นเลย คุณควรดูไลฟ์สไตล์ของคุณว่า โดยปกติแล้วคุณขับรถไปในระยะทางเท่าไหร่ต่อวัน เพื่อให้สามารถเลือกซื้อรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นที่มีความจุแบตเตอรี่ และระยะทางวิ่งได้ไกลที่สุดที่ตอบโจทย์ ถ้าต้องการรถ EV ที่วิ่งได้ระยะทางไกลมากขึ้น ราคาของรถก็จะสูงขึ้นตามไปเช่นกัน

 

2 Charging Timeระยะเวลาในการชาร์จแบตเตอรี่ รถยนต์ไฟฟ้าแต่ละรุ่น จะมีความไวในการ ชาร์จแบตเตอรี่บอกไว้ ว่าในหนึ่งการชาร์จให้ได้ไฟเต็มสุด ใช้ระยะเวลานานเท่าไหร่ กับไฟฟ้าประเภทไหน สิ่งนี้จะช่วยให้คุณสามารถคำนวณเวลาเพิ่มเติม เมื่อต้องมีการชาร์จแบตระหว่างการเดินทางได้ ลองจินตนาการดูว่า หากคุณแบตใกล้หมดกลางทางแล้วต้องขับไปเติมไฟในสถานีชาร์จ แต่รถยนต์ไฟฟ้าของคุณมีระยะเวลาการเติมนานเกินไป ทำให้คุณไปถึงที่หมายไม่ทันการ ระยะเวลาในการชาร์จแบตเตอรี่ จึงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญ เวลาเราเอาไปเปรียบเทียบสมรรถนะของรถยนต์ไฟฟ้า

 

3 Home Chargerการเตรียมที่ชาร์จไฟฟ้าที่บ้าน ปัจจุบันสถานีชาร์จรถยนต์นอกบ้านที่ใช้ไฟฟ้ากระแสตรงอาจจะยังมีไม่มากพอกับความต้องการของจำนวนรถยนต์ไฟฟ้า และระยะเวลาในการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าก็อาจจะนานจนไม่ตอบโจทย์การขับไปชาร์จระหว่างวันก่อนไปทำงาน ดังนั้นเจ้าของรถยนต์ EV จึงควรมีการติดตั้งเครื่องชาร์จรถ EV ไว้ที่บ้านด้วย เพื่อให้สามารถชาร์จรถตอนกลับถึงบ้านไว้จนเต็มก่อนเช้าวันใหม่ได้ แต่นั่นหมายความว่า คุณก็จะมีค่าใช้จ่ายจำนวนไม่น้อยในการติดตั้งเครื่อง EV Charger ที่บ้านเกิดขึ้น

 

4 Energy Feeค่าเชื้อเพลิงที่ต้องจ่าย เมื่อนำมาเปรียบเทียบเป็นรายครั้ง ค่าชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าอาจจะดูมีราคาถูกกว่าค่าเติมน้ำมัน แต่นั่นหมายถึงค่าไฟบ้านของคุณที่สูงขึ้นอีกในแต่ละเดือน หากคุณติดตั้งเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (Home Charger) ไว้ที่บ้าน สิ่งที่คุณควรรู้อีกอย่างหนึ่งคือ เรื่องช่วงระยะเวลา On-Peak กับ Off-Peak ที่มีอัตราการคิดราคาค่าไฟฟ้าไม่เท่ากัน ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถประหยัดค่าไฟในการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าลงได้ หากคุณชาร์จในเวลาที่เหมาะสม

 

5 Maintenanceการซ่อมบำรุง แม้รถยนต์ไฟฟ้าจะไม่มีรายละเอียดค่าใช้จ่ายจุกจิกให้ต้องชำระบ่อย ๆ ในการซ่อมบำรุง เช่น ค่าเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง เปลี่ยนไส้กรอง ให้ต้องกังวล เพราะไม่ได้ใช้เครื่องยนต์สันดาป แต่หากมีอะไหล่ชิ้นใดในรถยนต์ไฟฟ้าเกิดการเสียหายขึ้นมา จะมีราคาที่ต้องจ่าย ซึ่งแพงกว่ารถยนต์ทั่วไป เกือบเป็นแสนบาทเลยทีเดียว คำถาม คือ นอกจากค่าซื้อรถยนต์ไฟฟ้าในตอนแรกที่ต้องชำระไป หากเกิดมีการชำรุดใดๆ ขึ้นมา เราจะสามารถแบกรับค่าใช้จ่ายตรงนี้ได้หรือไม่

 

6 Reputation & After-Sale Serviceความน่าเชื่อถือของแบรนด์และบริการหลังการขาย อีกหนึ่งเรื่องสำคัญที่ควรไตร่ตรอง คือ ชื่อเสียงของบริษัทรถยนต์ไฟฟ้าที่ต้องการซื้อนั้นดีหรือไม่ และบริการหลังการขายที่บริษัทนั้นรองรับมีอะไรบ้าง หากคุณไม่แน่ใจว่าจะไปหาข้อมูล Insight เหล่านี้ได้ที่ไหน ให้ลองแฝงตัวเข้าไปในกลุ่มคนรักรถยนต์ไฟฟ้าแต่ละรุ่นบนช่องทาง social media เพื่อหา feedback จากผู้ใช้งานจริงก่อนตัดสินใจซื้อจะได้ไม่เสียใจทีหลัง หากบริษัทนั้นมีบริการหลังการขายที่แย่ หรือไม่ตอบโจทย์

 

7 Insuranceประกันภัยที่ครอบคลุมรถยนต์ไฟฟ้าเพราะนวัตกรรมการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้ายังไม่เสถียร์ และสมรรถนะของรถยนต์ไฟฟ้าก็ไม่ได้เหมือนรถยนต์ทั่วไป คุณจึงจำเป็นต้องมองหาประกันภัยที่ครอบคลุมรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นที่คุณกำลังจะซื้ออีกด้วย ซึ่งธนชาตประกัยภัยเรามีประกันภัยชั้น 1 Single Rate ที่ตอบโจทย์ผู้ขับรถยนต์ไฟฟ้า สร้างความอุ่นใจให้ทุกการเดินทาง ดูรายละเอียดกรรมธรรม์ เพิ่มเติม คลิก https://bit.ly/Single-Rate

จำนวนคนอ่าน : 372
ผู้เขียน : Admin วันที่ : 14/3/2567 13:50:11