ผู้ขับขี่ยานพาหนะ มีความเห็นอย่างไรกับพฤติกรรมการขับขี่ของตนเอง
หลายต่อหลายครั้งที่เรารู้ทั้งรู้ว่าเราทำในสิ่งที่ไม่ควรทำ แต่เราก็อดไม่ได้ที่จะทำมันลงไปด้วยเหตุจำเป็นบางประการ เช่น อยากลดความอ้วน แต่ก็อดไม่ได้ที่จะทานของหวาน ของทอด ของมัน อยากทานไอศกรีม การขับขี่ก็เช่นกัน เรารู้ทั้งรู้แต่ด้วยความจำเป็น ความเร่งรีบ การจราจรที่ติดขัด ทำให้เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะทำสิ่งเหล่านี้
แม้สัดส่วนเปอร์เซ็นต์ที่เห็นด้วยว่าสิ่งที่ทำเป็นเรื่องที่ผิด แต่ก็มีสัดส่วนที่ยังคงจะทำต่อไปเทียบเคียงมากอยู่เช่นกัน
-การใช้สมาร์ทโฟนระหว่างขับรถ มีผลวิจัยสนุบสนุนว่า แม้เราจะใช้เฮดโฟนในการคุยโทรศัพท์ อัตราเสี่ยงก็ยังคงมีอยู่ เพราะสมองส่วนการตัดสินตอบสนองช้าเมื่อต้องทำสองสิ่งพร้อมกัน คือ ตามองเห็น หูได้ยิน และมือขับรถ เท้าเหยียบเบรค เพราะฉะนั้นแทบไม่ต้องพูดถือคนที่คุยโทรศัพท์โดยไม่ใช้เฮดโฟนเลยว่าจะมีอัตราเสี่ยงมากขนาดไหน หากสมองสั่งการไม่ทัน แม้เพียงเสี้ยววินาที
-ไม่มีสมาธิระหว่างขับรถ เช่น เหม่อลอย หรือ ทานข้าว เราเชื่อว่าแทยทุกคนต้องมีอาการเหม่อลอยในขณะขับรถ ทั้งขณะรถติดหรือรถเคลื่อนตัว เพราะเรามีสิ่งที่ต้องคิดมากมายในหัวในแต่ละวัน ทั้งเรื่องงาน เรื่องความรัก เรื่องเงิน สิ่งที่พอจะแนะนำได้ก็คือสายตาของเราต้องมองไปข้างหน้า ไม่เหม่อลอยจนกระทั่งหันไปมองชมนกชมไม้ข้างทาง เรื่องการรับประทานอาหารก็เช่นกัน เราต้องแน่ใจจริง ๆ ว่ารถติดนานพอที่เราจะตักอาหารขึ้นมารับประทาน อย่ารับประทานอาหารขณะรถเคลื่อนที่เด็ดขาด
-การไม่มองกระจกหลัง ทุก ๆ ครั้งเวลาเราจะแซงหน้าหรือเปลี่ยนเลน เราจำเป็นต้องมองทั้งกระจกมองข้างและกระจกหลังประกอบกัน เพราะระยะทางในกระจกนั้นหลอกสายตาเรา ทำให้เราคิดว่าเราสามารถเปลี่ยนเลนหรือแซงได้พ้น แต่จริงแล้วอาจจะไม่ แม้เราจะแซงพ้นแต่คันข้างหลังอาจจะตกใจจนเบรคกระทันหันก็ได้
-การฝ่าฝืนสัญญาณไฟหรือเครื่องหมายจราจร ในบางครั้งเราอาจละเลยกฏจราจร เช่นเรามองเห็นว่าไม่มีรถคันใดในรัศมี 100 เมตรขณะไฟแดง เราจึงฝ่าไฟแดงไป แม้เราจะรู้ว่าปลอดภัย แต่ก็เป็นสิ่งไม่ควรทำ เพราะเราไม่สามารถรู้ได้ว่าจะมีอีกคันที่คิดเหมือนเรา แต่ขับเร็วกว่าฝ่าไฟแดงเหมือนกัน หรือการขบเร็วเกินกำหนดในเขตโรงเรียน ชุมชน เราไม่สามารถรู้ได้
การขับรถเร็วกว่าที่กฏกหมายกำหนด บนทางด่วนนั้น มีอัตราเร็วที่รถยนต์ควรวิ่งด้วยความเร็วที่จำกัด แต่พอเห็นว่าถนนว่างโล่ง เราก็อดไม่ได้ที่จะเร่งความเร็วขึ้น แม้ความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุจะน้อยเพราะเป็นทางตรงไม่มีรถสวน แต่ก็เสี่ยงการเกิดอุบัติที่ไม่คาดฝันจากการแข่งกันแซง ถนนลื่น เป็นต้น
ธนชาตประกันภัยเข้าใจดีว่าทุกอุบัติเหตุสามารถเกิดขึนได้อย่างไม่คาดฝัน ทั้ง ๆ ที่ตัวเราเองก็ระวังกันอย่างเต็มที่แล้วก็ตาม แต่ในบางครั้งเราก็หลงลืมที่จะให้ความสำคัญกับสิ่งที่เราเคยชิน ธนชาตประกันภัยมีประเภทความคุ้มครองที่หลากหลายตอบโจทย์ของแต่ละคน ยกตัวอย่างเช่น 1 lite ประกันภัยที่เหมาะสำหรับรถยนต์อายุจดทะเบียนตั้งแต่ 1- 10 ปี ประกันภัยรถยนต์ประเภท 1 ที่เริ่มต้นเบา ๆ เพียง 10,000 บาท ไม่ต้องตรวจสภาพรถยนต์
รายละเอียดเพิ่มเติมและเปรียบเทียบข้อดีระหว่าง 1 lite และ ประกันชั้น 1 คลิก http://www.thanachartinsurance.co.th/tnifrontend/fproductdetail.aspx
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก http://en.wikipedia.org/wiki/mobile_phones_and_driving_safety